วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ทำหมูกรอบใน 50 นาที สูตรเร่งรัดสำหรับคนใจร้อน

 

         "ทำหมูกรอบใน 50 นาที 

         สูตรเร่งรัดสำหรับคนใจร้อน"



วิธีทำหมูกรอบใน 50 นาที สูตรเร่งรัดสำหรับคนใจร้อน
มาดูกันๆๆๆๆ

          มีวิธีการทำหมูกรอบเด็ด ๆ มาฝากอีกแล้วจ้า ไม่ต้องต้ม ไม่ต้องทอด ไม่ต้องตาก ประหยัดเวลาทำง่าย ๆ สบายพุง !
           
          เอาใจคนชอบกินหมูกรอบเป็นชีวิตจิตใจด้วยวิธีทำหมูกรอบกินเองเด็ด ๆ อีกหนึ่งสูตร คราวนี้เป็นสูตรเร่งรัดที่ใช้เวลาในการทำ 50 นาทีเท่านั้น เได้เฟ้นหาสูตรและวิธีการทำหมูกรอบมาหลายสูตรแล้วนำมาปรับเป็นสไตล์ของตัวเองจนได้สูตรหมูกรอบ 50 นาที ไม่ต้องต้ม ไม่ต้องทอด ไม่ต้องตาก ประหยัดเวลา และทำง่าย ๆ ด้วยหม้ออบลมร้อน 

          คำเตือน ! หมูกรอบสูตรนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก และเป็นศัตรูของการออกกำลังกายทุกประเภทเอาล่ะ ! ใครพร้อมจะอ้วนไปด้วยกันแล้ว ตามมาดูส่วนผสมและวิธีทำหมูกรอบง่าย ๆ สูตรนี้กันเลยจ้า 

สิ่งที่ต้องเตรียม

          1. หมูสามชั้น


          2. น้ำส้มสายชู

          3. น้ำปลา

          4. เกลือป่น

อุปกรณ์
            
          1.มีดแกะสลัก

          2. หม้ออบลมร้อน

 วิธีทำ

1.ล้างหมูสามชั้นให้สะอาด (ลองชั่งดูได้น้ำหนัก 1.1 ก.ก. ชิ้นนี้ทำออกมา พอสุกแล้วเบาไป 4 ขีดค่ะ) 

2.ใช้มีดแกะสลักจิ้มลงบนเนื้อหมูให้ทั่วจนเป็นรูพรุน (ยิ่งพรุนยิ่งกรอบ)

3.บั้งเนื้อหมูให้เป็นริ้ว ๆ (หน้าแคบ หน้ากว้างตามชอบ ทั้งนี้เพื่อง่ายต่อการหั่นตอนสุก และกรอบไวขึ้นด้วยนะคะ)

4.เนื้อหมูที่บั้งแล้วไปแช่น้ำส้มสายชูผสมน้ำปลาค่ะ (ผสมกันเข้าไปเลยค่ะ ให้น้ำปลามากว่าน้ำส้มสายชูสักหน่อย) โดยแช่ด้านเนื้อแช่ประมาณ 5 นาที  ส่วนด้านหนังให้ชุบแล้วนำขึ้นทันที
           
          เคล็ดลับ : น้ำปลาจะทำให้เค็มเข้าเนื้อ ส่วนน้ำส้มสายชูจะช่วยให้สีเหลืองสวยนะจ้าาาา


5.ใส่เนื้อหมูลงในหม้ออบลมร้อนโดยหงายด้านเนื้อขึ้น ใช้ไฟที่ 220 องศาเซลเซียส อบนานประมาณ 20 นาที จนด้านเนื้อสุก

6.พอด้านเนื้อสุกแล้วให้หงายเอาด้านหนังขึ้น โรยเกลือลงไปเล็กน้อย (เอาเกลือโรยซะหน่อยตามที่เค้าบอกต่อกันมา เราโรยบ้างไม่โรยบ้างก็กรอบทุกรอบนะ  เราทำกับข้าวไม่เก่ง พอบั้งเป็นริ้ว เวลาโรยเกลือชอบคาตามร่อง ไม่สวยงาม แหะ ๆ ) จากนั้นอบต่ออีก 30 นาที 

7.พอครบเวลา นำออกจากหม้ออบ หั่นเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

          แผล่บ ๆ ขอกลืนน้ำลายแป๊บนะคะ หมูกรอบสูตรนนี้น่ากินสุด ๆ แถมไม่ต้องทอดให้น้ำมันเยิ้ม ๆ แบบนี้คุยกันยาว




FoodFood By Tonpalm

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เมนูมาม่า อร่อยได้ในราคาประหยัด

  

  "เมนูมาม่า อร่อยได้ในราคาประหยัด"


***เหมาะสำหรับช่วงใกล้สิ้นเดือนจ้า ฮ่าาาาา***

เลิกกินมาม่าแบบฉีกซองแล้วเทน้ำร้อนเสียที เพราะวันนี้เรามีเมนูมาม่าเด็ด ๆ อีกหลากหลายเมนูมาฝาก ทั้งง่าย ทั้งประหยัด รับรองว่าเห็นแล้วต้องหิว !

          จะมีใครที่ไม่เคยกินมาม่าไหมเนี่ย ? ไม่ใช่แค่สิ้นเดือนเท่านั้นนะที่เราจะได้ฤกษ์แกะซองมาม่าออกมากิน เพราะมาม่า หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เราคุ้นเคยไม่ได้มีไว้แค่ฉีกซองเติมน้ำร้อนแล้วกินประทังชีวิตแค่สิ้นเดือนเท่านนะคะ เพราะมาม่าซองละไม่กี่บาทสามารถนำไปทำเป็นเมนูอร่อย ๆ ได้อีกตั้งหลากหลายเมนู ไม่เชื่อก็ลองตามมาดู 7 เมนูมาม่า จานเดียวทำง่าย อร่อยได้ในราคาประหยัด ที่กระปุกดอทคอมนำมาฝาก แล้วจะรู้ว่า มาม่านั้นมีดีกว่าที่คิด


มาม่ายำปลากระป๋อง
          
          เริ่มต้นเมนูมาม่ากันด้วย มาม่ายำปลากระป๋อง เมนูเบสิก ๆ ที่เป็นการจับคู่หูเพื่อนซี้ยามสิ้นเดือนอย่างมาม่ากับปลากระป๋องมายำรวมกัน เพิ่มความแซ่บ ความอร่อย และแน่นเครื่องมากยิ่งขึ้น เป็นสูตรเด็ด ๆ มาจาก คุณ Am Nicha ส่วนผสมและเครื่องปรุงก็ไม่มีอะไรมา แป๊บเดียวก็ได้เมนูมม่าง่าย ๆ อร่อย ๆ ไว้กินแล้ว (ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มาม่ายำปลากระป๋อง เมนูประหยัดสุดแซ่บแน่นเครื่อง)


           ส่วนผสมของเมนูมาม่าของเรา
          
 1.มาม่ารสต้มยำกุ้ง 2 ห่อ

 2.ปลากระป๋อง

 3.หอมใหญ่หั่นเป็นวง ๆ 

 4.มะนาว 1 ซีก

 5.พริกขี้หนูซอย 3 เม็ด

 6.ผักชีเล็กน้อย สำหรับโรยหน้า

 วิธีทำ
          

1. ต้มน้ำพอเดือดแล้วใส่เส้นมาม่าลงไปต้มสักครู่ จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ตักใส่ชาม เตรียมไว้
           
2.เทปลากระป๋องใส่ชาม (เพราะถ้าเทลงไปในมาม่าเลยก็จะได้ทั้งเนื้อทั้งน้ำจะทำให้เลี่ยน) แล้วตักเนื้อปลาชิ้นสวย ๆ วางไว้บนเส้นมาม่า
           

 3. ใส่หอมใหญ่และพริกขี้หนูซอยวางลงไปให้สวยงาม ตามด้วยเครื่องปรุงมาม่า บีบมะนาวลงไป เทน้ำที่ต้มมาม่าลงไปให้พอท่วมเส้นนิด ๆ โรยผักชีเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ





FoodFood By Tonpalm


ไก่ทอดแสนอร่อย

            

    "เคล็ดลับทอดไก่ให้หอม กรอบ อร่อย"  

ไก่ทอด เมนูอร่อย ๆ ยอดฮิตที่ใครต่อใคร ๆ ก็ต่างคิดว่า จะสามารถเนรมิตให้กลายเป็นจานโปรดสุดอร่อยได้ แค่นำเนื้อไก่ไปชุบแป้งแล้วจับลงทอดในน้ำมันร้อน ๆ เท่านั้น โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงแล้วการทำไก่ทอดนั้นมีเคล็ดลับกับส่วนผสมอีกมากมายที่ต้องใส่ใจ

         วันนี้เราขอนำเทคนิควิธีการทำไก่ทอดมาฝากกัน ซึ่งขอการันตีความอร่อยด้วยส่วนผส
อันเลิศรสและขั้นตอนการทำไก่ทอดให้อร่อย ไปดูกันเลยค่ะ




เคล็ดลับการทำไก่ทอด

หากต้องการทอดไก่ทั้งตัวควรเลือกไก่ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 3.5 ปอนด์หรือประมาณ 1.5 กิโลกรัม แต่ไก่น้ำหนักขนาดนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า เนื้อไก่ทุกส่วนจะเหมาะกับการนำมาทอด หากต้องการไก่ที่สามารถนำมาทอดได้ทุกส่วนนั้น ควรเลือกไก่ที่มีน้ำหนัก 3 ปอนด์หรือประมาณ 1.3 กิโลกรัม  

         1. การทอดอกไก่นั้น ควรแบ่งเนื้อหน้าอกออกเป็น 3 ส่วน เพื่อลดระยะเวลาในการทอด ป้องกันไม่ให้เนื้อบางส่วนแห้ง และแข็งจนเกินไป 

         2.หากก่อนหน้านี้เคยนำไก่ลงไปแช่ในน้ำเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ ให้ลองเปลี่ยนวิธีการโดยการใส่แฮม หรือเบคอนลงไปทอดในน้ำมันก่อนทอดไก่ ความเค็มจากแฮม หรือเบคอนจะคงอยู่ในน้ำมัน จากนั้นค่อยใส่เนื้อไก่ลงไป รับรองว่า ไก่ทอดจะอร่อย และกลมกล่อมไม่แพ้การแช่น้ำเกลือเลย 

         3.ก่อนนำไก่ไปทอดควรทาเกลือให้ทั่วตัวไก่ก่อน จากนั้นหมักทิ้งไว้ประมาณอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือ 1 คืน เพื่อรักษาความชุ่มชื่นของเนื้อไก่เอาไว้

         4. การใส่น้ำมันลงในกระทะเพื่อทอดไก่นั้น ระดับน้ำมันจากก้นหม้อหรือก้นกระทะไม่ควรสูงเกิน 1.5 นิ้ว เพราะหลังจากที่ใส่เนื้อไก่ลงไปนั้น ปริมาณน้ำมันก็จะเพิ่มขึ้นจนท่วมตัวไก่ จะทำให้คุณได้เนื้อไก่ที่สุกกรอบเท่ากันทุกส่วน 

         5.หลังจากที่คลุกไก่กับแป้งทอดกรอบครบ 2 ครั้งแล้ว ให้นำไก่ที่คลุกแป้งแล้ววางพักไว้บนตะแกรงประมาณ 20 นาทีก่อนนำไปทอด เพื่อให้อุณหภูมิของเนื้อไก่เท่ากับอุณหภูมิห้อง จะทำให้การทอดไก่ของคุณง่ายดาย และทำให้ไก่สุกเร็วขึ้น 

         6. หากคุณอยากให้ไก่ทอดนั้นกรอบมากยิ่งขึ้น ให้คุณไก่เข้าไมโครเวฟ และอบด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 250 องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 132 องศาเซลเซียสประมาณ 20 นาทีก่อนนำไปรับประทาน 

         7. อย่าลืมนำเครื่องในไก่ไปชุบแป้งทอด พร้อมกับทอดให้กรอบ และเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อไก่ รับรองว่ามื้ออาหารนี้จะครบเครื่องความอร่อยอย่างแน่นอน

         8. เลือกชิ้นส่วนไก่ที่ต้องใช้ระยะเวลาทอดนานลงทอดก่อน ซึ่งระหว่างที่รอคุณสามารถจะทำอย่างอื่นไปพร้อม ๆ กันได้ อย่างเช่น จัดจาน หรือเตรียมน้ำจิ้ม  

         9.เลือกแป้งอเนกประสงค์แบบที่ไม่ผสมกลูเตน (Gluten-free flour) จะทำให้ได้เนื้อไก่ทอดที่นุ่มกรอบ 

 สูตรการทำไก่ทอดแสนอร่อย
        สิ่งที่ต้องเตรียม (สำหรับ 6-8 ที่)

         1.ไก่สด 2 ตัว (น้ำหนักประมาณตัวละ 1.5 กิโลกรัม) 

         2.เกลือป่น 1 ช้อนชา 

         3.แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป 2 ถ้วย

         4.แป้งข้าวโพด 1/4 ถ้วย (จะช่วยให้ไก่กรอบยิ่งขึ้น)

         5.ผงปาปริก้า 1 ช้อนโต๊ะ

         6. ผงกระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ

         7.ผงปรุงรสไก่ 1/2 ช้อนชา

         8. ใบไทม์แห้ง 1 ช้อนชา

         9.พริกไทยดำบด 1 ช้อนชา 

         10.เกลือป่น ปริมาณเล็กน้อย

         11.โยเกิร์ต (หรือบัตเตอร์มิลค์ หรือซาวร์ครีม) 2 ถ้วย

         12.ไข่ไก่ 2 ฟอง

         13.น้ำมันพืช สำหรับทอด 1/2 ถ้วย

         14. เบคอน 2 แผ่น

  วิธีทำ

          1. แบ่งเนื้อไก่ 1 ตัวออกเป็น 9 ชิ้น จากนั้นทาเกลือลงบนชิ้นเนื้อไก่ให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ในช่องแช่แข็งประมาณ 1 คืนหรืออย่างน้อย 2 ชั่วโมง

          2. ผสมแป้งทอดกรอบ แป้งข้าวโพด ผงปาปริก้า ผงกระเทียม ผงปรุงรสไก่ ใบไทม์ พริกไทยดำบด และเกลือป่น ใส่ลงในถุงพลาสติก เขย่าให้ส่วนผสมเข้ากันทั้งหมด เตรียมไว้

          3. ตีผสมไข่ไก่กับโยเกิร์ตให้เข้ากัน นำเนื้อไก่ลงชุบให้ทั่ว จากนั้นนำใส่ในถุงส่วนผสมแป้ง ปิดปากถุงให้สนิท จากนั้นเขย่าถุงพลาสติกให้แป้งเกาะติดกับเนื้อไก่จนทั่ว ทำซ้ำจนหมด

          4. นำเนื้อไก่ที่ได้ชุบลงในส่วนผสมไข่อีกครั้ง และนำไปเขย่าในถุงส่วนผสมแป้งอีกครั้ง จากนั้นพักไว้บนตะแกรงประมาณ 20 นาที
 
          5. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 250 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้ (อบเพื่อความกรอบมากยิ่งขึ้น หากไม่ต้องการข้ามวิธีนี้ได้)

          6. นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืช ตั้งไฟปานกลางจนน้ำมันร้อนจัด (สังเกตุจากคลื่นบนผิวน้ำมัน ถ้าน้ำมันร้อนได้ที่ผิวน้ำมันจะนิ่ง) จากนั้นใส่เบคอนลงทอด (เบคอนก็จะช่วยให้ไก่ออกมาเหลืองกรอบ รสกลมกล่อม และน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น) เมื่อเบคอนกรอบ ตักออกจากกระทะ

          8. นำเนื้อไก่ลงทอดในน้ำมันที่เดือดจัด ครั้งละ 5-7 ชิ้น ประมาณ 15-30 วินาที จากนั้นค่อย ๆ พลิกเนื้อไก่อีกด้าน (เพื่อให้ด้านนอกสุกกรอบเท่า ๆ กันทั่วทั้งชิ้น) จนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักไว้สักครู่

        Tip : ดูจากฟองอากาศในน้ำมัน หากฟองอากาศในน้ำมันเริ่มน้อยลงแล้ว จึงจะพลิกเนื้อไก่เพื่อทอดอีกด้าน และไม่ควรจะใส่น้ำมันเพิ่มในระหว่างที่ทอด 

          9. นำไก่เข้าเตาอบ นานประมาณ 15-20 นาที จากนั้นนำไก่ทอดออกจากเตาอบ จัดใส่จาน พร้อมรับประทาน

         การทำไก่ทอดให้กรอบอร่อยนั้นอาจต้องใช้เวลาสักนิด แต่ถ้าทำไปตามขั้นตอนที่บอกมาแล้ว รสชาติของไก่ทอดที่ได้จะต้องอร่อย หอมกรอบ และนุ่มอย่างแน่นอน อย่าลืมนำเคล็ดลับนี้ไปใช้กันนะคะ

ส้มตำเส้นแก้ว เด็ดโดนใจคนลดความอ้วน



วันนี้เอาใจคนรักสุขภาพกันนิดนึงนะค่ะ อิอิ^^
นำเสนอเมนู !!!!!
"ส้มตำเส้นแก้ว เด็ดโดนใจคนลดความอ้วน"
มาดูหน้ากันเลยว่าเป็นแบบไหนๆ...



อาหารลดน้ำหนักในวันนี้ กระปุกดอทคอมจัดเมนูรสเด็ดเผ็ดแซบสุดฮิต ที่คุ้นปากคนไทยอย่าง "ส้มตำ" มาแปะไว้ให้สาวกอาหารอีสานได้แซบนัวกัน แต่ส้มตำสูตรนี้พิเศษกว่าที่เคยกินกันนะคะ เปลี่ยนจากเส้นมะละกอสับ มาใช้เส้นแก้วที่ได้มาจากการสกัดสาหร่ายทะเลแทน กรุบกรอบอร่อย คุณสาว ๆ หรือใครที่กำลดน้ำหนักอยู่คงจะปลื้มปริ่มแน่ ๆ 

          ถึงแม้ส้มตำจะเป็นเมนูเก่า จะนำมาแปลงโฉมใหม่ ที่ยังคงเน้นวิธีการทำแบบง่าย ๆ ใช้ส่วนผสมและวัตถุดิบที่สามารถหามาทำได้ง่าย ๆ แต่อร่อยชัวร์ ถ้าพร้อมจะไปแซบนัวกันแล้วก็มาดู วิธีทำส้มตำลดน้ำหนัก สูตรนี้กันเลยจ้า

สิ่งที่ต้องเตรียม

         1.พริกสด ปริมาณตามชอบ

          2. กระเทียม 

          3.ถั่วฝักยาว

          4.น้ำตาลปี๊บ 1/2 ทัพพี

          5.น้ำปลา 1 ทัพพี

          6.น้ำมะนาว 1 1/2 ทัพพี

          7.มะเขือเปาะ หั่นเป็นชิ้น

          8.มะเขือเทศ หั่นเป็นชิ้น

          9.ผงชูรส (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

          10.กุ้งสดลวก (ไม่ต้องสุก)

          11.เส้นแก้ว

วิธีทำจ้าาา

1.เริ่มด้วยการใส่พริก (ตามต้องการ) กับกระเทียมลงในครก โขลกพอหยาบหรือละเอียดหน่อยก็ได้ (พูดถึงเรื่องครกก่อน เคยมีครกที่หอบหิ้วมาด้วยเป็นครกดินปั้นที่ก้นลึกสำหรับทำส้มตำ เนื่องจากตำส้มตำบ่อยมาก คนคงทนไม่ไหวพ่ายต่อการใช้งานขอลากโลกด้วยการระเบิดตัวเองตายเลยต้องมาใช้ครกหินแทน คราวนี้ใช้ได้อีกหลายรุ่นแน่นอน)

2. พอพริกกับกระเทียมละเอียดแล้ว ก็ใส่ถั่วฝักยาวลงไป ใช้สากบุบพอแตก น้ำปลา 1 ทัพพี  น้ำมะนาว 1 1/2 ทัพพี (ใส่เปลือกลงไปด้วยก็ได้) บี้ให้น้ำตาลปี๊บละลาย ใส่มะเขือเปาะและมะเขือเทศที่หั่นลงไป คนให้เข้ากัน แล้วเติมผงชูรส

3.ตามด้วยกุ้งลวกลงไปคนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ (ให้เปรี้ยวนำหวานตาม ความเผ็ดนี่ตามความชอบ ของผมเผ็ดนำ เปรี้ยวตาม หวานตามมา จากนั้นเค็มเป็นอันดับสุดท้าย ครบรส)

4.ตักใส่กะละมังที่ใส่เส้นแก้วไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน

5.ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟได้แล้วจ้า




FoodFood By Tonpalm


วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

"ผัดกะเพราทะเล เน้นๆ"อ่าฮาาาาา!!



หลังจากที่เราทำไข่มา 3 เมนูแล้วๆๆๆๆ
พักเรื่องไข่ๆไว้ก่อน เดี๋ยวจะเบื่อกันไปมากกว่านี้

ขอเสนอเมนู.......................!!!!!!

"ผัดกะเพราทะเล เน้นๆ"อ่าฮาาาาา!!


แค่รูปก็หิวแล้ววววว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ^^

ส่วนประกอบ

  • กุ้งสดปอกเปลือก (100 กรัม) ½ ถ้วยตวง
  • ปลาหมึกหั่นเป็นชิ้นพอคำ(100 กรัม) ½ ถ้วยตวง
  • เนื้อปลาเก๋าหั่นเป็นชิ้นพอคำ (50 กรัม) ¼ ถ้วยตวง
  • ใบกะเพราเด็ดประมาณ ½ ถ้วยตวง
  • พริกชีฟ้าแดงหั่นแฉลบ 1 เม็ด
  • คนอร์อน ½ ช้อนชา
  • น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูเขียวแดง 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 24 กรัม
  • น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ

อุปกรณ์

1.กระทะสำหรับทอด 1 ใบ
2.ตะหลิว 1 ด้าม
3.จานกระเบื้องสำหรับจัดจาน

มาเริ่มผัดกันเลยดีกว่าๆๆๆๆๆ

1.เราต้องเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมด ตั้งกระทะไส้บนเตาแก๊ส เปิดแก๊สที่อุณหภูมิ 120 องศา
แล้วเราก็รอจนกว่ากระทะจะร้อนนะค่ะ^^

2.เมื่อกระทะเริ่มร้อนแล้ว เราก็ทาน้ำมันลงบนกระทะประมาณ จากก้นกระทะขึ้นมา 4เซนติเมตร แล้วก็รอมันร้อน ประมาณ 3 นาทีนะค่ะ


3.
ใส่กุ้ง ปลาหมึก และเนื้อปลาผัดพอสุกแล้วเติมน้ำ ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยคนอร์อและน้ำมัน หอยผัดให้เข้ากัน

4.ใส่พริกชี้ฟ้า และใบกะเพราผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟจ้าาาาาา 



FoodFood By Tonpalm :)

ไข่ตุ๋นไมโครเวฟ...เนื้อเนียนนุ่มสุดแสนอร่อย


ไข่ตุ๋นไมโครเวฟ...เนื้อเนียนนุ่มสุดแสนอร่อย
      อีกเมนูหนึ่งที่ทำง่าย ทานง่าย และอร่อยด้วยค่ะ^^




ขั้นตอนของการเลือกซื้อไข่ไก่นะค่ะ^^
เราต้องเลือกซื้อไข่ที่สดและปลอดสารอันไหนไข่เก่าหรือไข่ใหม่นะค่ะ งุงิ้ งุงิ้ <3

เราควรที่จะดูคือออ!!!

เราจะต้องดูสังเกตที่เปลือกไข่ ไข่สดจะมีผงคล้ายแป้งฉาบติดอยู่ ไข่เก่าเปลือกจะมันลื่นๆนะ
ลักษณะเปลือกไข่ภายนอกเป็นสีนวลเพราะไข่เก่าที่ใกล้จะเน่านั้นจะมีลักษณะจุดสีเทาขาวๆ ดำๆ อยู่ที่เปลือก ยิ่งลองสังเกตดูดีๆ จะเห็นได้ว่ามีสีคล้ำๆ  อยู่ด้วยนะ ระวังๆ



"ควรจะเลือกดูดีๆ ใส่ใจสุขภาพกันนิดนึงนะค่ะ :)"
มาติดตามต่อๆ....


เครื่องปรุงไข่ตุ๋น (เราทำได้ประมาณ 3 ถ้วย)

1.ไข่ไก่  2 ฟอง
2.ผงปรุงรส  1/2 ช้อนชา (เราเพิ่มไปอีก 1/4 ช้อนชา)
3.น้ำเปล่า   2.5 เท่าของไข่ไก่
4.นมข้นจืด   5 ช้อนโต๊ะ
6.พริกไทย  1/2 ช้อนชา
7.เกลือ 1/2 ช้อนชา
8.กุ้ง กับ ปูอัด

อุปกรณ์

1.ถ้วยตวง
2.ซ้อมสำหรับตีไข่ 1 ด้าม
3.ไมโครเวฟ
4.ถ้วยสำหรับจัดจาน


วิธิทำ

1.อันดับแรกเราใช้วิธีตอกเตรียมชามแล้วหยิบไข่ไก่ขึ้นมา เราใช้มือทั้งสองข้างของเราจับไข่ไก่ โดยให้นิ้วโป้งของทั้งสองข้างหันเข้าหาตัว และนิ้วที่เหลือก็จับประคองไข่ไก่ไว้ แล้วเราก็ตอกไข่ไก่กับขอบชาม 3 ครั้ง เพื่อให้เปลือกไข่ร้าว และใช้นิ้วโป้งทั้งสองข้าง เจาะเข้าไปในรอยร้าวและค่อยๆใช้มือทั้งสองข้างแยกเปลือกไข่ออกจากกัน ไข่ใส่ถ้วยตวงเพื่อดูว่าปริมาณไข่ที่เราต้องการใช้มีปริมาณเท่าไร เราใช้ไข่ 4 ฟอง ได้ 250 ml

2.เทไข่ใส่ชามใบใหญ่ (ชามใบนี้เล็กไปเราต้องไปเปลี่ยนชามให้ใหญ่กว่าที่หลัง)

3.ตวงปริมาณน้ำให้ได้ 2.5 เท่าของปริมาณไข่ ดังนั้น เมื่อปริมาณไข่ 4 ฟองเราได้ 250 ml จะต้องใส่น้ำเป็นจำนวน 250 ml x 2.5 เท่า = 625 ml ใช้วิธีเอาเปลือกไข่ไก่ขนาดครึ่งฟองมาตวงปริมาณน้ำให้ได้ 2.5 เท่า เช่น ถ้าใช้ไข่ 2 ฟอง ก็ต้องใช้เปลือกไข่ไก่ครึ่งฟองตวงน้ำทั้งสิ้น 10 ครั้ง (2 x 2.5 x 2 = 10) ดังนั้นถ้าไข่ไก่ 4 ฟอง ก็ต้องตวงทั้งสิ้น 4 x 2.5 x 2 = 20 ครั้ง
แต่เนื่องจากการตอกไข่ของเราแต่ละครั้ง เปลือกไข่มันไม่ได้แตกตรงกลางพอดี เราก็เลยใช้วิธีตวงจากถ้วยตวงเลยจะง่ายกว่า

4.หลังจากนั้นก็ใส่น้ำลงไปในไข่ ใส่นมข้นจืด ใส่เกลือ ใส่พริกไทยนิดหน่อย เราทำให้เด็กทานเลยใส่พริกไทยไม่มาก

5.อย่าใส่ซอสปรุงรสลงไปแทนเกลือนะคะ เพราะจะทำให้ไข่ตุ๋นสีออกคล้ำ ไม่น่ารับประทาน ซึ่งเราก็เคยทำสูตรที่ใส่ซอสปรุงรสมาแล้ว ถึงแม้ว่าจะใช้ซอสปรุงรสที่เป็นสูตรสีไม่เข้มข้นก็ตาม แต่ก็ยังไม่ค่อยน่ารับประทาน  

6.ส่วนผงปรุงรส เราเพิ่มผงปรุงรสไปอีก 1/4 ช้อนชา เพราะหลังจากชิมแล้วเราว่ารสมันอ่อนเกินไป แต่ถ้าใครไม่ใส่ นมข้นจืด ไม่ต้องเพิ่มนะคะ เพราะจะทำให้เค็มเกินไปจริง ๆ แล้วเราอยากลองเปลี่ยนจากผงปรุงรส เป็นผงดาชิแทน แต่ลืมไปค่ะ เลยคิดว่าคราวหน้าจะลองใช้ผงดาชิแทน น่าจะได้รสชาติเหมือนไข่ตุ๋นญี่ปุ่นหน่อย

7.หลังจากใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไปในไข่แล้วก็ใช้ช้อนส้อมค้นไข่ให้แตกและเข้ากันดี อย่าตีจนเกิดฟองเหมือนไข่เจียวนะคะ เพราะจะทำให้เกิดอากาศในตัวไข่ ทำให้เนื้อไข่ตุ๋นไม่เนียน เป็นฟองอากาศได้ หลังจากคนจนเข้ากันดีแล้ว ก็กรอกด้วยกระชอนตาถี่ เพื่อกรองเศษไข่ขาว หรือ เศษอื่น ๆ ออก

8.ใส่เนื้อสัตว์ที่เราต้องการลงไปในถ้วยตุ๋น แต่อย่าใส่ทั้งหมดลงไปนะคะ เก็บบางส่วนเอาไว้ตกแต่งด้านบนให้สวยน่ารับประทานด้วยคะ ถ้าเป็นเนื้อชนิดอื่น เช่น เนื้อหมู หรือ อื่นใดที่สุกยาก ให้ลวกให้สุกก่อนแล้วค่อยใส่ลงไป แต่พอดีของเรามันเป็นกุ้ง กับ ปูอัดที่สุกง่ายอยู่แล้วเลยไม่ลวกก่อน

9.เทไข่ตุ๋นที่กรองด้วยกระชอนแล้วลงในถ้วย

10.นำเข้าเวฟ โดยใช้ไฟต่ำ (ย้ำนะคะว่าไฟต่ำ ๆ ๆ ๆ ๆ) เป็นเวลาทั้งสิ้น 15 นาที
แต่ การเวฟนั้นมีเทคนิคการทำด้วยค่ะ อย่าเวฟที่เดียว 15 นาทีต่อเนื่องเลย เพราะไข่จะได้รับความร้อนมากเกินไปทำให้ไม่เนียนสวย ต้องให้มันพักคลายความร้อนบ้าง
ซึ่งเทคนิคที่ว่าก็คือ ให้เวฟ 3 นาที พัก 1 นาที ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเวฟครบ 15 นาที (3 นาที x 5 ครั้ง = 15 นาที) ดังนั้นจะเวฟทั้งสิ้น 5 ครั้ง

11.ตบแต่งหน้าไข่ตุ๋นด้วย เนื้อสัตว์ที่ลวกสุกแล้ว ต้นหอมซอยนิดหน่อย ใครอยากใส่อย่างอื่นก็ได้นะคะ เราลวกแครอทรูปดอกไม้ไว้ แต่ดันลืมเอามาแต่งหน้าซะนี่ 





FoodFood By Tonpalm

ไข่เจียวกุ้งสับบบบบบ!!

  
    เมนูวันนี้ขอเสนอออ.....
ไข่เจียวกุ้งสับๆๆๆๆๆ อ่า ของโปรดเลยๆๆ

***มาแบ่งปันความอร่อยกันๆๆๆ***


ขั้นตอนของการเลือกซื้อไข่ไก่นะค่ะ^^
เราต้องเลือกซื้อไข่ที่สดและปลอดสารอันไหนไข่เก่าหรือไข่ใหม่นะค่ะ งุงิ้ งุงิ้ <3

เราควรที่จะดูคือออ!!!

เราจะต้องดูสังเกตที่เปลือกไข่ ไข่สดจะมีผงคล้ายแป้งฉาบติดอยู่ ไข่เก่าเปลือกจะมันลื่นๆนะ
ลักษณะเปลือกไข่ภายนอกเป็นสีนวลเพราะไข่เก่าที่ใกล้จะเน่านั้นจะมีลักษณะจุดสีเทาขาวๆ ดำๆ อยู่ที่เปลือก ยิ่งลองสังเกตดูดีๆ จะเห็นได้ว่ามีสีคล้ำๆ  อยู่ด้วยนะ ระวังๆ



"ควรจะเลือกดูดีๆ ใส่ใจสุขภาพกันนิดนึงนะค่ะ :)"
มาติดตามต่อๆ....


ก่อนอื่นเรามาเตรียมวัตถุดิบกัน^^

1. ไข่ 4 ฟอง
2. กุ้งสับ 100 กรัม
3. พริกไทย 1/2 ช้อนชา
4. ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
5. ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
6. หัวหอมใหญ่ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมันสำหรับทอด 1 ถ้วย

อุปกรณ์
1.กระทะสำหรับทอด 1 ใบ
2.ตะหลิว 1 ด้าม
 

3.ชามสำหรับตอกไข่ใส่
 

4.จานกระเบื้องสำหรับจัดจาน

วิธีในการทอดไข่เจียวกุ้งสับๆๆๆๆๆ

1.เราต้องเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมด ตั้งกระทะไส้บนเตาแก๊ส เปิดแก๊สที่อุณหภูมิ 120 องศา

แล้วเราก็รอจนกว่ากระทะจะร้อนนะค่ะ^^
 

2.เมื่อกระทะเริ่มร้อนแล้ว เราก็ทาน้ำมันลงบนกระทะประมาณ จากก้นกระทะขึ้นมา 4เซนติเมตร แล้วก็รอมันร้อน ประมาณ 3 นาทีนะค่ะ

***(น้ำมันต้องร้อน ๆ เลยนะเพื่อไข่ดาวของเราจะได้ฟูกรอบและดูน่ากินค่ะ^^)***

3.ระหว่างที่เรารอน้ำมันขอเราเดือดนั้น เราก็หันมาเตรียมไข่สดกันดีกว่าๆ 

4.เตรียมชามแล้วหยิบไข่ไก่ขึ้นมา เราใช้มือทั้งสองข้างของเราจับไข่ไก่ โดยให้นิ้วโป้งของทั้งสองข้างหันเข้าหาตัว และนิ้วที่เหลือก็จับประคองไข่ไก่ไว้

5.แล้วเราก็ตอกไข่ไก่กับขอบชาม 3 ครั้ง เพื่อให้เปลือกไข่ร้าว และใช้นิ้วโป้งทั้งสองข้าง เจาะเข้าไปในรอยร้าวและค่อยๆใช้มือทั้งสองข้างแยกเปลือกไข่ออกจากกัน 
(ทำเหมือนกันแบบนี้ทั้งสี่ฟอง)

6.ไข่ที่เราตอกแล้วก็จะลงไปอยู่ใช้ชาม ทั้งสองฟอง 
นำไข่ใส่ส่วนผสมทั้งหมดตีๆๆให้ฟูๆๆ หรือบางคนอาจจะใส่น้ำมะนาวเล็กน้อยก็ได้

7.น้ำมันในกระทะของเราร้อนพอดีกับที่เราเตรียมไข่ไว้แล้ว ใช้มือขวาหยิบชามขึ้นแล้วเทไข่ที่อยู่ในชามลงในกระทะที่มีน้ำมันเดือด 

น้ำมันร้อนๆ จะทำให้ไข่ฟู ฮ่าาาาา ^^

8.จากนั้นเราก็ลดไฟลง ให้เหลือ 80 องศา แล้วก็ทอด ตามใจเราเลยว่าอยากให้กรอบขนาดไหนๆ^^

9.เมื่อทอดตามใจฉันเสร็จแล้ว ก็รอเสด็จน้ำมันนิดนึง แล้วก็จัดใส่จาน เป็นอันเสร็จเรียบร้อยจ้าา





FoodFood By Tonpalm :)